
กลับไปยังบล็อก
หมอสมหมาย เป็นคนสิงห์บุรีโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2464 ปัจจุบันอายุ 90 ปีแล้ว คุณพ่อคุณแม่มีบุตรธิดารวม 7 คน โดยผมเป็นคนที่ 5 คุณพ่อคือนายกิมซิด คุณแม่นางพิมเสน ทองประเสริฐ พี่ชายคนโตของผม ชื่อศาสตราจารย์พันตรีนายแพทย์ประจักษ์ ทองประเสริฐ เป็นอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช พี่ชายคนที่สองชื่อนายหงวน ทองประสริฐ เป็นลูกศิษย์ท่านปรีดี พนมยงค์ พี่สาวคนที่สามและที่สี่แต่งงานเป็นแม่บ้าน ส่วนผมซึ่งเป็นบุตรคนที่ห้า เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เด็ก พ.ศ.2471 ที่โรงเรียนประจำเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งอยู่ตรงตึกซิงเกอร์ สี่-พระยาในปัจจุบัน น้องสาวคนที่หกยังมีชีวิตอยู่ส่วนน้องชายคนที่เจ็ดเป็นนายทหาร จบการศึกษาจากโรงเรียนวชิราวุธ ปัจจุบันมีพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงสามคน คือพี่สาวคนที่สามอายุ 95 ปี ผมอายุ 90 ปีและน้องสาวอายุ 84 ปีนอกนั้นเสียชีวิตหมดแล้ว
คือ มะเร็งที่เกิดขึ้นจากเซลล์ของต่อมน้ำเหลืองโดยตรง ส่วนมะเร็งที่ลุกลามจากอวัยวะอื่นแพร่กระจายเข้าต่อมน้ำเหลือง อาจทำให้เกิดอาการต่อมน้ำเหลืองโตได้ แต่ไม่เรียกว่ามะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่จะเรียกตามมะเร็งที่อวัยวะนั้นแพร่กระจายมาที่ต่อมน้ำเหลือง
โดยตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ดูลักษณะของเซลล์มะเร็ง ย้อมพิเศษตรวจแยกชนิดของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง บางครั้งอาจต้องตรวจเนื้อเยื่อด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็คตรอน หรือตรวจดีเอนเอ
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองกระจายมาคอ
ยาแอนติบอดีต่อซีดี 30 ที่ผิวเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดบีเซลล์ จัดเป็นยาที่รักษาตามเป้าหมาย สามารถใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดบีเซลล์ได้ผลดี โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ดื้อยาเคมีบำบัดหรือโรคเป็นซ้ำ ชื่อยาเรทูซิแม็พ
บางคนมีอาการไอต่อเนื่องกันหลายอาทิตย์ บางครั้งไอโดยมีโลหิตออกมา บางคนเหนื่อย หอบ แน่นหน้าอก (เนื่องจากน้ำท่วมปอด) เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
- การซักประวัติ พฤติกรรมเสี่ยงและประวัติความครัว
-มะเร็งปอด (มีต้นตอที่ปอด) กระจายไปในปอด
- ผ่าตัด (surgery)
- เคมีบำบัด ( Chemotherapy)
- อายุที่มากขึ้น ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สุดต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
ในระยะแรกมักมีอาการไม่ชัดเจน ต่อมาผู้ป่วยจะคลำได้ก้อนที่เต้านม (มักเกิดขึ้นเพียงข้างเดียว ส่วนโอกาสที่จะเกิดทั้งสองข้างมีเพียง 5%) ก้อนที่เป็นมะเร็งเต้านมมักจะมีลักษณะแข็งและขรุขระ แต่อาจจะเป็นก้อนเรียบ ๆ ก็ได้ ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมส่วนใหญ่จะไม่มีอาการเจ็บหรือปวด แต่จะมีเพียง 10% ของผู้ป่วยเท่านั้นที่มีอาการปวดเต้านม (ในกรณีที่ก้อนใหญ่ก็สามารถแตกออกมาได้)
-การตรวจภาพรังสีเต้านม (Mammogram – แมมโมแกรม)
- มะเร็งเต้านมที่ยังไม่ได้รับการรักษา
- เป็นแผลที่จุดเดิม เล็กๆ
- ให้ยาเคมี คีโม

หมอสมหมาย เป็นคนสิงห์บุรีโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2464 ปัจจุบันอายุ 90 ปีแล้ว คุณพ่อคุณแม่มีบุตรธิดารวม 7 คน โดยผมเป็นคนที่ 5 คุณพ่อคือนายกิมซิด คุณแม่นางพิมเสน ทองประเสริฐ พี่ชายคนโตของผม ชื่อศาสตราจารย์พันตรีนายแพทย์ประจักษ์ ทองประเสริฐ เป็นอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช พี่ชายคนที่สองชื่อนายหงวน ทองประสริฐ เป็นลูกศิษย์ท่านปรีดี พนมยงค์ พี่สาวคนที่สามและที่สี่แต่งงานเป็นแม่บ้าน ส่วนผมซึ่งเป็นบุตรคนที่ห้า เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เด็ก พ.ศ.2471 ที่โรงเรียนประจำเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งอยู่ตรงตึกซิงเกอร์ สี่-พระยาในปัจจุบัน น้องสาวคนที่หกยังมีชีวิตอยู่ส่วนน้องชายคนที่เจ็ดเป็นนายทหาร จบการศึกษาจากโรงเรียนวชิราวุธ ปัจจุบันมีพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงสามคน คือพี่สาวคนที่สามอายุ 95 ปี ผมอายุ 90 ปีและน้องสาวอายุ 84 ปีนอกนั้นเสียชีวิตหมดแล้ว

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
"มะเร็งต่อมน้ำเหลือง"
คือ มะเร็งที่เกิดขึ้นจากเซลล์ของต่อมน้ำเหลืองโดยตรง ส่วนมะเร็งที่ลุกลามจากอวัยวะอื่นแพร่กระจายเข้าต่อมน้ำเหลือง อาจทำให้เกิดอาการต่อมน้ำเหลืองโตได้ แต่ไม่เรียกว่ามะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่จะเรียกตามมะเร็งที่อวัยวะนั้นแพร่กระจายมาที่ต่อมน้ำเหลือง
สาเหตุ :
ความผิดปกติของเซลล์ในร่างกายคนเรานั้นเกิดขึ้นตลอดเวลา แม้ร่างกายจะมีกระบวนการจัดการความผิดปกติที่เกิดขึ้น แต่ถ้าวันใดเกิดจิตตก เครียด วิตกกังวล ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้กลไกทางภูมิคุ้มกันลดลง
อาการ :
ส่วนใหญ่ก้อนเนื้อจะขึ้นบริเวณ ไหลปลาร้า คอ ขาหนีบ รักแร้ คอ ขาหนีบ ก้อนเนื้อจะสามารถงอกได้เกือบทุกส่วนของร่างกาย ผู้ป่วยบางรายเป็นไข้ตลอด มีไข้สูงนานเป็นเดือน
การตรวจวินิจฉัย :
โดยตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ดูลักษณะของเซลล์มะเร็ง ย้อมพิเศษตรวจแยกชนิดของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง บางครั้งอาจต้องตรวจเนื้อเยื่อด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็คตรอน หรือตรวจดีเอนเอ
เมื่อทราบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองการตรวจขั้นต่อไปคือ การตรวจหาระยะของโรค นิยมตรวจด้วยการเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ของปอดและช่องท้อง
ในปัจจุบันนี้การตรวจเพ็ทสแกน และเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์มีความไว และการจำเพาะในการตรวจรอยโรค และระยะของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ดีกว่าเอ็กซเรย์ทั่วไป แต่มีราคาสูงกว่า
ลักษณะของผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง :
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองกระจายมาคอ
- มะเร็งกระจายมาต่อมน้ำเหลืองบริเวณไหลปลาร้า
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองกระจายมาจากต่อมทอนซิล
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในเต้านม
วิธีการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบัน :
รังสีรักษา ; การฉายแสงรังสีรักษาสามารถควบคุมมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ดี ทำให้ก้อนมะเร็งยุบได้อย่างรวดเร็ว
ยาเคมีบำบัด ; มะเร็งต่อมน้ำเหลืองสามารถรักษาให้หายขาดได้ ด้วยยาเคมีบำบัดหลายชนิดร่วมกัน ยาที่นิยมใช้คือสูตรยาช้อป (CHOP) ซึ่งย่อมมาจาก ยาไซโคลฟอสฟาไมด์ ยาเอเดรียมัยซิน ยาออนโควินหรือวินคริสตีน ยาเพร็ดนิโซโลน
ยาสเตียรอยด์ ; มะเร็งต่อมน้ำเหลืองตอบสนองดีต่อยาสะเตียรอยด์ แต่จะได้ผลดีเมื่อใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัด
การเปลี่ยนไขกระดูก ; การให้ยาเคมีบำบัดขนาดสูงร่วมกับการเปลี่ยนไขกระดูก หรือปลูกถ่ายเซลล์ตัวอ่อนของไขกระดูก ทำให้การตอบสนองต่อยาดีขึ้น
การรักษาตามเป้าหมาย :
ยาแอนติบอดีต่อซีดี 30 ที่ผิวเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดบีเซลล์ จัดเป็นยาที่รักษาตามเป้าหมาย สามารถใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดบีเซลล์ได้ผลดี โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ดื้อยาเคมีบำบัดหรือโรคเป็นซ้ำ ชื่อยาเรทูซิแม็พ
ยาแอนติบอดีติดฉลากสารกัมมันตรังสี ให้การตอบสนองสูงถึงร้อยละ 50-80 เช่น ยาแอนติบอดีต่อซีดี 20 ที่ผิวเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองติดฉลากด้วยสารกัมมันตรังสียิบเทรียม 90 ชื่อยา ไอบริทูโมแม็พ เป็นต้น
อิมมูนบำบัด : ยาอินเตอเฟียรอนอัลฟ่า ใช้รักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้โดยเฉพาะชนิดโฟลิคูลาร์
ยาเคมีบำบัดชนิดทา : มะเร็งต่อมน้ำเหลืองอาจเกิดที่ผิวหนังได้เรียกว่า โรคลิมโฟมาคิวทิส สามารถรักษาด้วยการฉายแสงรังสีอิเล็คตรอนที่ผิวหนัง รักษาด้วยยาเคมี
**มะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษายากมาก ยุบๆ โผล่ๆ ส่วนใหญ่รักษาโดยยาเคมี ซึ่งมีราคาแพง**

มะเร็งปอด
เป็นมะเร็งที่พบได้มากในประเทศไทย โดยพบมากเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย อันดับ 4 ในเพศหญิง ตรวจพบในระยะเริ่มแรกได้ยากเพราะอาการจะไม่ปรากฏ คนที่มาพบแพทย์ส่วนใหญ่ก็จะมีอาการที่โรคลุกลามแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าระยะใดก็มีหนทางในการดูแลรักษา และ ส่งผลให้มีชีวิตที่ยืนยาวหรือดำรงชีวิตได้ดีขึ้น เมื่อได้รับการวินิจฉัยระยะและมีการรักษาที่ถูกต้อง
สาเหตุ :
อาจะมาจากสิ่งแวดล้อมและอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ สูบบุหรี่ ดื่มเหล้ามาก ฯลฯ
อาการ :
บางคนมีอาการไอต่อเนื่องกันหลายอาทิตย์ บางครั้งไอโดยมีโลหิตออกมา บางคนเหนื่อย หอบ แน่นหน้าอก (เนื่องจากน้ำท่วมปอด) เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
การตรวจวินิจฉัย :
- การซักประวัติ พฤติกรรมเสี่ยงและประวัติความครัว
- เอกซเรย์ปอด (ภาพ x-ray) ดูตำแหน่งของก้อนในปอดว่าอยู่หน้าหรือหลัง
- การส่องกล้องดูหลอดลม (bronchoscopy) วิธีนี้สามารถเข้าไปได้ลึกจนถึงหลอดลมแขนงย่อย ทำให้นอกจากจะเห็นลักษณะของหลอดลมแล้ว ยังสามารถตัดชิ้นเนื้อในหลอดลมและเนื้อปอดนอกหลอดลม (transbronchial biopsy) ไปส่งตรวจ
- การตัดชิ้นเนื้อบริเวณต่อมน้ำเหลืองไปส่งตรวจทางพยาธิ
- การทำสแกน (SCAN)
- การใช้เข็มขนาดเล็กเจาะก้อน
- การผ่าตัดเปิดทรวงอก
เป็นวิธีสุดท้ายในการวิเคราะห์โรค และเป็นการรักษาไปด้วยถ้าผู้ป่วยเป็นเนื้องอก
ลักษะของผู้ป่วยแต่ละราย :
-มะเร็งปอด (มีต้นตอที่ปอด) กระจายไปในปอด
-อาจลามไปที่กระดูก
-น้ำท่วมปอดลามไปเยื่อหัวใจ
-อาจจะเป็นมะเร็งเต้านม มดลูก ลำไส้ใหญ่ ลามมาปอดก็ได้
-อาจจะเป็นจุดที่ปอดข้างใดข้างหนึ่ง หรือกระจายไปอีกข้างก็ได้
วิธีการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบัน :
- ผ่าตัด (surgery)
ถ้าเป็นก้อนเนื้อหรือจุดที่ไม่ใช่ตรงกลางปอด สามารถผ่าตัด (surgery) จนตัดมะเร็งออกได้หมด และปอดที่เหลืออยู่ยังเพียงพอสำหรับการหายใจ ขนาดของปอดที่ตัดออกขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของมะเร็ง ถ้าคุณหมอวินิจฉัยว่าผ่าตัดได้ (โอกาสรอดหรือยืดอายุได้มากกว่าผู้ที่ไม่ตัด)
- รังสีรักษา หรือการฉายแสง (Radiation therapy)
ใช้ในผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ผ่าตัดไม่ได้ และในรายที่ผ่าตัดแล้วแต่ตัดมะเร็งออกไม่หมดหรือคาดว่ามะเร็งจะงอกขึ้นมาอีก การฉายรังสียังมีประโยชน์สำหรับการบรรเทาอาการ เช่น เมื่อมีการอุดกั้นของหลอดเลือดดำใหญ่ มีอาการปวดกระดูกหรืออาการทางสมอง
ปัจจุบันการฉายรังสีร่วมกับเคมีบำบัด เช่น การฉายรังสีแบบ 3 มิติ, เทคนิคการใช้รังสีรักษาร่วมกับเคมีบำบัด, Fractionation, Radiation modifiers เป็นต้น
- เคมีบำบัด ( Chemotherapy)
มีบทบาทสำคัญในการรักษามะเร็งปอด ในปัจจุบันนิยมใช้ยาหลายตัวสลับกันเป็นระยะ (cyclical treatment) เพราะได้ผลดีกว่าการใช้ยาตัวเดียว ผลการรักษามักจะดีในผู้ป่วยที่สภาพร่างกายสมบูรณ์ และมีมะเร็งในร่างกายน้อย ยาที่ใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง
*หากน้ำท่วมปอด (อาจจะต้องเจาะน้ำออก) ฝังท่อให้น้ำไหลออกได้

มะเร็งเต้านม
"มะเร็งเต้านม (Breast cancer)"
เป็นโรคมะเร็งที่มีความสัมพันธ์กับการมีระดับเอสโตรเจนในเลือดสูงเป็นเวลานาน โดยเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับที่ 1-2 ของโรคมะเร็งที่พบได้ในผู้หญิง จะเริ่มพบได้ตั้งแต่วัยสาวเป็นต้นไป และจะพบได้มากขึ้นตามอายุ ส่วนมากจะพบในหญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ปัจจุบันมะเร็งนมพบได้ในผู้หญิงที่มีอายุน้อย (ก้อนเนื้อที่เต้านมไม่ใช่เป็นมะเร็งทั้งหมด อาจจะเป็นถุงน้ำ หรือเยื่อก็ได้)
สาเหตุ :
- อายุที่มากขึ้น ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สุดต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
- เคยผ่าตัดก้อนเนื้อที่เต้านม และพบว่าเป็นซีสต์เต้านมชนิดที่เริ่มผิดปกติ (Atypia)
- พันธุกรรม มีประวัติว่าคนในครอบครัวสายตรงเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่ (มารดาหรือพี่น้องท้องเดียวกัน) จะมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งเต้านมได้สูงกว่า (ถ้ามีญาติเป็นมะเร็งเต้านมก่อนวัยหมดประจำเดือน ยิ่งมากคนก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้มากขึ้น)
- มีประวัติการเป็นมะเร็งรังไข่ เนื่องจากมะเร็งรังไข่มีความเกี่ยวข้องกับการสัมผัสฮอร์โมน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมได้
- มีโรคก้อนเนื้อบางชนิดของเต้านม
- การกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 หรือ BRCA2 มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
- การเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากพบโรคนี้ได้สูงขึ้นในหญิงที่มีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี
- การมีภาวะหมดประจำเดือนช้า หรือหมดประจำเดือนหลังอายุ 55 ปี
- การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดตั้งแต่อายุยังน้อยและใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน (เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ก่อนวัยหมดประจำเดือน)
อาการ :
ในระยะแรกมักมีอาการไม่ชัดเจน ต่อมาผู้ป่วยจะคลำได้ก้อนที่เต้านม (มักเกิดขึ้นเพียงข้างเดียว ส่วนโอกาสที่จะเกิดทั้งสองข้างมีเพียง 5%) ก้อนที่เป็นมะเร็งเต้านมมักจะมีลักษณะแข็งและขรุขระ แต่อาจจะเป็นก้อนเรียบ ๆ ก็ได้ ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมส่วนใหญ่จะไม่มีอาการเจ็บหรือปวด แต่จะมีเพียง 10% ของผู้ป่วยเท่านั้นที่มีอาการปวดเต้านม (ในกรณีที่ก้อนใหญ่ก็สามารถแตกออกมาได้)
ส่วนอาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้แก่ หัวนมบุ๋ม (จากเดิมที่ปกติ)
วิธีการตรวจโดยแพทย์แผนปัจจุบัน :
-การตรวจภาพรังสีเต้านม (Mammogram – แมมโมแกรม)
-อัลตราซาวด์
*แต่ที่จะให้ผลแน่นอนที่สุดคือ การเจาะ ดูดเซลล์ หรือตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ
ลักษณะของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแต่ละราย :
- มะเร็งเต้านมที่ยังไม่ได้รับการรักษา
- มะเร็งเต้านมผ่าตัดแล้วงอกใหม่ที่เดิม
- มะเร็งเต้านมผ่าตัดแล้วงอกใหม่ที่เดิมแล้วลามไปอีกข้างหนึ่ง
- มะเร็งเต้านมผ่าตัดแล้ว รับยาเคมีครบคอร์ส แต่มะเร็งก็งอกใหม่
- มะเร็งเต้านมผ่าตัดแล้ว ฉายแสงและคีโมแล้ว แต่ก็งอกใหม่
- มะเร็งเต้านมเน่าจนแตก
การกระจายของเซลล์มะเร็งไปยังอวัยวะอื่นๆ :
- เป็นแผลที่จุดเดิม เล็กๆ
- เป็นก้อนเนื้อบริเวณไหปลาร้า
- เป็นก้อนเนื้อบริเวณรักแร้
- เซลล์มะเร็งได้ลามเข้าปอด ตับ หรือกระดูก (การบ่งบอกถึงมะเร็งระยะลุกลามแล้ว)
การรักษาโดยใช้แผนปัจจุบัน :
- ให้ยาเคมี คีโม
- ฉายแสง
- เลาะก้อนเนื้อหรือตัดเต้านม
- มะเร็งเต้านมที่รักษาด้วย ยา Hercerptin (ยาช่วยให้ลดการเกิดซ้ำของเซลล์มะเร็ง ในกรณีมี ER (ฮอร์โมนเพศหญิง) PR (ฮอร์โมนเพศชาย) Her-2 (ยีนมะเร็งเต้านม) เป็นบวก )